ตึง..ตึง..
เสียงย้ำเท้าของโทรลตัวใหญ่ยักษ์แห่งหิมาลัย ร่างหนาที่เต็มไปด้วย
กลิ่นของต้นไม้ ก้มมองเหล่าคนแปลกหน้าที่ต่างเข้ามายังโรงเรียน
หรือเขตของมันอย่างแปลกใจ ร่างโทรลยักษ์ ก้าวย่างเข้าไปหาผู้มาใหม่
ใกล้ขึ้น...ใกล้ขึ้นก่อนหยุดลง...พร้อมเสียงคำรามลั้น
"ซิล หยุด" เสียงตะโกนของชายร่างสูงโปร่งดังขึ้นก่อนรีบวิ่งมาห้ามโทรลยักษ์นั้นทันที ก่อนชายหนุ่มจะตบที่ตัวโทรลยักษ์นั้นเบาๆ
"กลับไปก่อนเด็กเหล่านี้ไม่มีอะไรหรอก"
โทรลยักษ์หยุดคิดก่อนพยักหน้าแล้วเดินกลับเข้าป่าเหมือนเดิม
"สวัสดีเหล่าเด็กน้อยทั้งหลาย"
ร่างสูงโปร่งหันมาคุยกับเหล่าสหายหน้าใหม่ด้วยรอยยิ้ม
"หน้าตาท่าทางมอมแมมกันเลยนี่เดินทางกันมายังไงจากไหนบ้างล่ะ"
"ไหนลองเล่าเรื่องราวของเจ้าสิ ก่อนที่จะมาเจอที่นี่ ข้าอยากฟัง"
ชายหนุ่มนั้งลงด้วยรอยยิ้มแล้วมองเหล่าสหายตรงหน้า"เรื่องของเรา...." เสียงเล็กๆเอ่ยตอบ
.
.
.
"แง้ ... แง้ .."เสียงเด็กน้อยร้องจ้ากลบเสียงพูดคุยกระซิบกระซาบรอบห้อง จนกระทั่งห้องทั้งห้องเงียบเสียงลงพร้อมกับข้อสรุป
"เด็กคนนี้... มีพลังมากเกินไป"เสียงอันทรงอำนาจกล่าวขึ้นช้าๆ
"แต่... "เสียงของหญิงสาวผู้อุ้มท่รกน้อยไว้ในอ้อมแขนค้านขึ้นมาเสียงแผ่ว
"้น้องหญิง ข้าเข้าใจแต่นางมีพลังมากเกินกว่าที่เราจะควบคุม หรือแม้กระทั่งตัวนางเอง"เสียงทรงอำนาจกล่าวด้วยน้ำเสียงทดท้อ
"ฮึก ... ฮือๆๆ ข้าผู้เป็นแม่จะทำใจได้อย่างไร"หญิงสาวสะอึกสะอื้นร่ำไห้กับผู้เป็นสวามี
"ก็ได้ ... นางจะต้องมีเครื่องคุมพลัง ... จนกว่าเราจะดูแลนางไม่ได้เราจึงจะส่งนางไปให้กับต้นกำเนิด "
หลังจากนั้น เจ้าหญิงน้อยที่ค่อยๆเติบโตพร้อมเครื่องประดับกักพลังที่มากขึ้นเรื่อยๆไปกับอายุและพลังของนาง เจ้าหญิงองค์น้อยผู้แปลกแยก เจ้าหญิงภูติต้นไม้ผู้ไม่สามารถใช้พลังเพื่อเหล่าต้นไม้ได้ แต่ก็มิอาจปิดบังความสดใสร่าเริงของนางไปได้ ทุกๆวันนางจะถือบัวรดน้ำ ออกไปดูแลต้นไม้ประจำตัวนางทุกวัน ต้นไม้ที่โตมาพร้อมกับนาง ขณะนี้ชันษาขององค์หญิงน้อยดำเนินมาถึง 9 ชันษา วันนี้องค์หญิงตัวน้อยก็ออกไปดูแลต้นไม้ของตนเองในเวลาประจำ
"นี่มิเกล เจ้าว่าต้นไม้ของข้าจะชอบข้าหรือเปล่า"องค์หญิงตัวน้อยหันไปถามพี่เลี้ยงที่เดินมาด้วยดันข้างกาย
"ต้องชอบซิเพคะ พระองค์ทรงดูแลอยู่ทุกวัน"พี่เลี้ยงตอบกลับไปด้วยความเอ็นดูเจ้าหญิงน้อย
"แต่..ต้นไม้ไม่เคยพูดกับข้าเลยนะ ทั้งๆที่ภูติทุกคนได้ยิน"เสียงเล็กๆพูดออกมาอย่างน้อยใจ
"เดี๋ยวพระองค์ก็ต้องทรงได้ยินเพคะ"พี่เลี้ยงพูดให้กำลังใจเจ้าหญิงองค์น้อย
"นั่นซินะ ข้าต้องพยายามต่อไป"องค์หญิงองค์น้อยพูดด้วยดวงตาเป็นประกาย แล้วรีบวิ่งเพื่อไปหาต้นไม้ของนาง แต่ทว่า...เมื่อไปถึง
"กรี๊ดดด!...."องค์หญิงตัวน้อยชะงักค้างพร้อมมองเศษซากต้นไม้ พี่เลี้ยงที่วิ่งตามมาได้แต่หยุดยืนตกใจอยู่ด้านหลัง
"ทะ...ทำไม ใครกัน ... "องค์หญิงเดินเข้าไปคุกเข่าลงหน้าเศษซากต้นไม้ หยดน้ำตาที่ค่อยๆรื้นขึ้นมา หยดลงบนเศษซากต้นไม้ ดั่งต้นไม้รับรู้มันพยายามยกกิ่งไม้ที่แตกหักขึ้นแตะหน้าองค์หญิงน้อยราวกับจะปลอบประโลมว่าอย่าเสียใจเพื่อมัน แต่เรี่ยงแรงที่น้อยนิดนั้นกลับไม่สามารถทำได้ดั่งที่หวัง กิ่งไม้ตกลงก่อนที่จะได้สัมผัสใบหน้าองค์หญิงตัวน้อย
"ม่ายยยยยยยย ... "เสียงกรีดร้องดังออกมาจากปากเล็กๆ เครื่องประดับกักพลังเริ่มมีรอยแตกร้าว มากขึ้นเรื่อยๆ จนสลายไปพลังที่เคยถูกกักพลันกระจายออกมา เศษซากกิ่งไม้ตรงหน้าองค์หญิงพลันฟื้นคืน แต่อนิจจาองค์หญิงตัวน้อยผู้ควบคุมพลังไม่ได้ไม่รับรู้สิ่งรอบตัว รับรู้แต่ความสูญเสียที่ได้รับ
ต้นไม้รอบข้างเริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้นไม้ที่โตจนสิ้นอายุขัยพลันค่อยๆล้มลงหักครืนลงมา พี่เลี้ยงเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งไปรายงานองค์ราชาและราชินี ต้นไม้ตรงหน้าองค์หญิงพยายามโน้มกิ่งลงมาโอบกอดองค์หญิงน้อยไว้เมื่อกิ่งไม้สัมผัสตัวองค์หญิงพลันได้สติ แต่พลังที่มิอาจควบคุมนั้นทำให้ต้นไม้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ
"มะ...ไม่นะ ไม่ หยุดซิ"องค์หญิงตัวน้อยที่รู้สึกตัวพยายามที่ห้ามพลังของตัวเอง แต่กลับทำไม่ได้ องค์ราชาราชินีและเหล่าทหารเมื่อมาถึงต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น องค์ราชารีบวิ่งไปอุ้มตัวองค์หญิงน้อย
"ข้าจะพานางไปที่ต้นกำเนิด!"เสียงทรงอำนาจสั่งเสียงเฉียบแล้วหันพระวรกายออกวิ่งไปที่ต้นไม้ใหญ่ใจกลางป่าทันที องค์หญิงน้อยได้เพียงแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นมองต้นไม้ที่กลับคืนมาค่อยๆแก่ตัวและหักโค่นลงไปต่อหน้าต่อตา
เมื่อองค์ราชาพาองค์หญิงน้อยมาที่ต้นไม้ใหญ่กลางป่า ราวกับต้นกำเนิดรับรู้เรื่องราวทั้งมวล กิ่งไม้ใหญ่โน้มลงมาโอบรัดร่างองค์หญิงน้อยไว้ พลันใบหน้าปรากฎขึ้นกลางต้นไม้ใหญ่
"ข้าจะดูแลเด็กคนนี้ต่อเอง นางจะต้องอยู่กับข้าไปอีก 12 ปี หลังจากนั้นนางจะกลับไปหาพวกเจ้าเอง"ทุกคนทำได้เพียงแต่ก้มหน้ายอมรับแม้แต่องค์ราชินีเองก็ได้เพียงแต่ก้มหน้าร้องไห้อยู่เงียบๆ
"อย่าา ไม่ ... อย่าทิ้งข้าไว้.เสียงองค์หญิงน้อยกรีดร้องออกมายามเห็นทุกคนค่อยๆก้าวถอยห่างออกจากต้นไม้ไป
"ไม่! อย่าทิ้งข้าไว้...อย่า ท่านพ่อ! ท่านแม่!..อย่าา..."เสียงที่ค่อยๆเงียบลง ทุกสรรพสิ่งกลับมาเงียบสงัด แต่ความเสียใจไม่ได้จางหายไป ....
...10 ปีผ่านไปองค์หญิงน้อยที่ร่างกายไม่เติบโตและแตกต่างจากเดิม เลือกที่จะเดินมาทิศทางตรงกันข้ามกับปราสาท ใบหน้าที่ปราศจากรอยยิ้ม ทุกย่างก้าวที่เดินผ่าน ต้นไม้น้อยใหญ่ต่างพากันสั่นไหวราวกับร่วมยินดีและสงสารเด็กน้อยผู้ปราศจากรอยยิ้มคนนี้ ร่วมหลายวันองค์หญิงตัวน้อย ก้าวมาถึงประตูที่เปิดกว้าง
"ที่นี่ ... ที่ไหน"